Custom Search

อุกาบาตขนาดยักษ์น่าจะชนโลกในปี 2014

อุกาบาตขนาดยักษ์น่าจะชนโลกในปี 2014
วันอังคาร, กันยายน 2, 2003 Posted 5:59 AM EDT (0959 GMT)LONDON, อังกฤษ (รอยเตอร์) --อุกาบาตขนาดยักษ์พุ่งตรงไปยังโลกและน่าจะชนในปี 2014, นักดาราศาสตร์สหรัฐหลายท่านได้เตือนอังกฤษตรวจตราอวกาศแต่ด้วยความกลัวที่จะเป็นแบบอาร์มาเกดอน,ที่ไม่มีสัญญาณเตือน --โอกาสที่จะเกิดความหายนะจากการชนมีค่า 1 ใน 909,000อุกาบาตมีชื่อว่า "2003 QQ47" จะได้รับการตรวจจับอย่างใกล้ชิดในอีกสองเดือนข้างหน้า วันที่ที่ชนคือ 21 มีนาคม 2014 แต่นักดาราศาสตร์หลายท่านกล่าวว่า ความเสี่ยงที่จะกระทบโลกคล้ายกับว่าลดลงเท่าที่รวบรวมข้อมูลในอนาคตเมื่อพุ่งชน, ,มันน่าจะมีผลกระทบเท่ากับ 20 ล้านเท่าของระเบิดปรมาณูที่ถล่มฮิโรชิมา โฆษกรัฐบาลอังกฤษได้บอกข่าวสารถึงวัตถุที่เข้าใกล้โลกผ่านทางวิทยุ BBC บทความที่กระจายออกไป เตือนเกี่ยวกับอุกาบาตว่าเป็นครั้งแรกที่สังเกตหินขนาดยักษ์ในนิวเม็กซิโกจากโปรแกรมการวิจัยอุกาบาตที่เข้าใกล้โลก"วัตถุที่เข้าใกล้โลกจะได้รับการสังเกตจากโลกในอีกสองเดือนข้างหน้าและนักดาราศาสตร์หลายท่านจะยังคงติดตามมันต่อไปจนหมดระยะ",ดอกเตอร์ Alan Fitzsimmons ได้กล่าว เป็นหนึ่งผู้เชี่ยวชาญในทีมทีให้ความเห็นอุกาบาตดังเช่น 2003 QQ47 เป็นหินขยะที่ทิ้งไว้ก่อนการก่อตัวระบบสุริยะเมื่อ 4.5 พันล้านปีมาแล้ว ส่วนใหญ๋ยังคงเก็บรักษาอย่างดีระยะทางห่างจากโลกในแถบอุกาบาตระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดีแต่ด้วยอิทธิพลแรงโนมถ่วงจากดาวเคราะห์ขนาดยักษ์ดังเช่นดาวพฤหัสบดีสามารถสะกิดอุกาบาตให้ออกนอกจากวงโคจรที่อยู่อย่างปลอดภัยและส่งให้พวกมันกระโจนพุ่งตรงมายังโลกดูข้อมูลได้ที่เวปไซต์ http://neo.jpl.nasa.gov/risk/2003qq47.html

24 เรื่องแปลกๆจากทั่วโลก

1.นักถ้ำมองโครตสกปรก เป็น ชาวอเมริกันแต่ไม่ระบุชื่อเพราะญาติขอร้อง อายุ 37 ปี อยู่เมืองเลล์ เกลด รัฐฟลอริดา อาชีพเพาะปลูก เมื่อเวลาว่างชายคนนี้จะมีอาชีพพิเศษคือชอบแอบมองสาวทำธุระโดยการตะเวณดูตาม สุขาทั่วเมือง และยิ่งมองยิ่งติดใจจงตัดสินใจแช่ในถังส้วมหลุมเพื่อมองเห็นสาวทำธุระจะๆ ตา(ส้วมเมืองนอกเขาเป็นแบบนี้) เผลิญสาวคนหนึ่งเขาทำธุระปล่อยทุ่นส่วนตัวเสร็จ แล้วบังเอิญไปเห็นอะไรไม่รู้มีตาสองตาของคนจึงแจ้งตำรวจ แล้วเจ้าถ้ำมองคนนั้นก็ถูกตำรวจเรียกรถเครนพร้อมตะขอเกี่ยวนักถ้ำมองออกจาก หลุม จากนั้นก็หย่อนลงบึงน้ำเสียเลย

2.แล้วใครจะมาแทน นาง ซินเธีย บรวน ชาวออสซี่ ได้ปลดเกษียณอายุงาน 62 ปีลง ที่โรงงานผลิตยาแห่งหนึ่ง จากสถิตทำงาน 34 ปีเต็ม โดยงานที่เธอทำสุดภาคภูมิใจคือ เธอสูดดมกลิ่นตด หรือก้นผู้ป่วยโรคริดสีดวงถวาร เนื่องจากบริษัทแห่งนี้ผลิดน้ำยาดับกลิ่นก้นและส่งใส่ว่าผลิตภัณฑ์เขาใช้ได้ กับผู้ป่วยหรือไม่

3. สถิตนี้ใครกล้าทำลาย โด แนลด์ คิง วัย 38 ปี ชาวเมืองเคพทาวน์ ประเทศเซาธ์แอฟริกา เขามีสถิดอันดับโลกโครตภูมิใจคือ เขาเป็นสามีหรือผัวของสัตว์ตัวเมียไม่น้อยกว่า 600 ตัว โดยเมียสัตว์ของโดแนลด์มีทั้ง แพะ แกะ วัว ควาย ม้า หมา แมว แรด นกกระจอกเทศ ลามา ไฮยีน่า กวาง เต่าตะนุ ลิงชิมแปมซี กอริลล่า ตัวกินมด (โฮ้กล้ามั่วขนาดนี้เลยเรอะ)

4. อยากดัง เลิฟ วีนี่ ดาราโนเนม ชาวลอนดอน ทำยังไงก็ไม่ดังเสียที วันหนึ่งเธอเข้าส้วมก็เกิดไอเดียสุดเจ๋ง เธอใช้เงินก้อนสุดท้ายทำอัมบั้มซีดี.ทันที โดยการอัดเสียงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องน้ำขณะที่ตนเองเข้าใช้ ไม่ว่าเสียงแปรงฟัน เสียงขุยเสลด เสียงฉี่ ตด หาวเรอ เสียงอึตกกระทบกับน้ำ ผลคืออัลบัมเธอขายดีมากกว่า30000 แผ่น และราคาแผ่นพอๆ กับแผ่นป๊อบฮิตเลยทีเดียว (ดังสมใจเลย)

5. ตายสุดซวยที่สุดในโลก อัน นี้เคยออกข่าวแล้วนะ บีทรีส วิลเลียมสัน อายุ 77 ปี พลเมืองอาวุโสชาวอังกฤษ วันหนึ่งเธอออกไปทำสวนหลังบ้าน ขณะที่เธอทำงานเพลินขณะนั้นก็มีของเสียก้อนหนึ่งตกลงมาจากห้องน้ำเครื่องบิน พอดีช่วงนี้อากาศหนาวจัดทำให้ของเสีย(ขี้) จับก้อนน้ำแข็งจนโตเท่าผลส้มตกลงหัวอย่างรุนแรง เธอล้มลงเสียชีวิตทันที (เฮ้อ..ทำมั้ยซวยยังงี้)

6. แข่งกินของสัปดนชิงแชมป์โลก การ แข่งนี้เกิดขึ้นที่ออสเตเลีย ชื่อรายการ ไอแซล อีท แอนนีธิง คอนเทสต์ แปลว่าฉันจะ แ ด ก ทุกอย่างที่ขวางหน้า ของที่กินมีทั้ง คอไก่สดๆ ฉี่วัว1ถ้วย หนอน ไส้เดือนสด ไขมันคน 1 ถ้วยที่ดูดมาจากคลีนิก (แวะ )

7. สั่งขี้มูลไกลที่สุดในโลก โจ อานนี่ เมสัน สาวสวย หุ่นดี แต่พฤติกรรมสุดอนาถ เพราะเธอมีความสามารถพิเศษคือสั่งขี้มูกขนาดเท่าเม็ดถั่วแดงไกลถึง 151 ฟุต 3 นิ้วครึ่งขนาดเท่าสนามฟุตบอล (โอโห ซูดยอด)

8.แมวฉันอยู่ในจานเป็ด มา ร์ซา ชาวนิวยอร์ก เสียใจมากที่แมวตัวโปรดชื่อ พัลซั่ม หายตัวไป เธอเศร้ามากจึงเดิมมาที่ภัตราคารจีน "xxx๊ดลัค ยู แฮป"สั่งเป็ดทอดมากินเพราะคิดว่าเธอจะคลายเศร้าได้ พอดีตอนที่เธอกินอาหารอย่างอร่อย ตำรวจ 3 นาย มาร้านพร้อมหมายค้นว่าร้านนี้ลักแมวลักหมามาปรุงอาหารขายแก่ลูกค้า......และ แล้วมาร์ชาก็ตามตำรวจไปดูในครัวแล้วก็เห็นหัวแมวของเธอแขวนกับตะขอ และพ่อครัวก็ยอมรับว่าเป็ดทอดที่เธอกินเป็นแมวของเธอเอง............... อร่อย

9. ฉี่ก็มีดี นัก วิจัยชาติไหนก็ไม่รู้เ พากันตกตะลึงว่าฉี่นั้นมีดี โดยพบคุณสมบัติที่ว่ามีฤทธิ์คล้ายยากล่อมประสาท ทำให้คนรู้สึกสุขสบายและมีความสุข เมื่อเห็นดังนี้นักวิจัยเลยนำไปสกัดเป็นแคปซูลขายในราคา 5 ดอลลาร์เสียเลย

10.มนุษย์ตดตายอย่างสมศักดิ์ศรี โจ นาธาน กริกส์ ชาวอังกฤษ เขาป่วยเป็นโรคประหลาด เกี่ยวกับโรคระบบทางเดินย่อยอาหารและกล้ามเนื้อทำให้เกิดแก๊สในท้องและตด เป็นประจำทุกระยะ 11 วินาที อยู่ดีไม่ว่าดีนายคนนี้ดันมีภรรยาและอยู่ 19 ปีเต็ม มีหรือที่เธอจะทนได้ เธอเลยจับสามีขังไว้ในตู้เก็บผ้าแบบปิดมิดชิด ปล่อยให้สามีตดตั้งแต่เช้าจนเย็น และวันต่อมาภรรยาเขาก็ลองจุดไฟเหย่ไปดู ปรากฏว่าบ้านระเบิดพังเป็นแถบ ตายกันทั้งสามีภรรยา ...หากชาติมีจริง ขอให้เราทั้ง2เกิดมาคู่กัน...

11.นักเลียสิวสถิตโลก นาง สาวแซลลี่ ดาลตัน อายุ 19 ปี เมืองโอ๊กแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เปิดอาชีพเป็นนักเลียสิว โดยใช้ลิ้นสะกิดสิวให้หัวออก เธอทำทั้งหัวดำ หัวช้าง และเธอทำมาตั้งแต่ปี 1942 จนอายุ 21 ปี เธอทำสถิตเลียสิวแก่ผู้คนรวม 5000 คน

12.อาหารชวนอ้วกที่สุดในโลก วง การอาหารโลกต้องบันทึกสถิตว่าเป็นอาหารที่ขยะแขยงของโลกที่เคยมีบันทึกมา เหตุเกิดที่ภัตตาคาร "โอมาร์" ในกรุงอัสตันบูล ประเทศตุรกี มีอาหารชนิดหนึ่งชื่อ "ซุปเห็ด" ดังมากคนต่อเข้าคิวไปกินจนแน่นร้านทุกวัน มีอยู่วันหนึ่งลูกค้าคนหนึ่งเกิดสงสัยว่าทำไมเนื้อเห็ดมันเหนียวผิดปกติกว่า วันอื่นๆ จึงมีการตรวจสอบ ผลปรากฏว่าแท้ที่จริงเนื้อเห็ดที่เหนียวๆ นั้น เป็นเนื้อผิวหนังที่ตาย ตัดออกจากปลายแขน ปลายขา คนป่วยโรคเรื้อนนั้นเอง.....อ้วก! (สงสัย...คงอร่อยน่าดู )

13.หมอพยาบาลหนีกระเจิง เหตุ เกิดที่ห้องผ่าตัดแห่งหนึ่งในนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อแพทย์และพยาบาลดูดไขมันจากหน้าทาง(ไลโปซัคั่น) จากสาวอ้วนคนหนึ่งชื่อ มาร์ธ คีเนอร์ หนัก 975 ปอนด์ หรือ 442 กิโลกรัม ระหว่างที่ดูดจู่ๆ เครื่องดูดไขมันเกิดทำงานผิดพลาดแทนที่จะพ่นไขมันลงถุงกลับพ่นกระจายไปทั้ง ห้อง แพทย์ และพยาบาล ต้องวิ่งหนีอุตลุด

14.เรื่องน่าเศร้าของช่างตัดผมตาบอด ซา มูเอล โครเจอร์ อายุ 55 ปี เป็นช่างตัดผมอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ตาบอดทั้งสองข้าง วันนั้นแก่เดินถือเก้าอี้สำหรับเด็กสำหรับนั่งตัดผม ขณะนั้นเขาเดินอยู่ริมถนนในเมืองแอตแลนต้า ด้วยความซวย ซามูเอลเกิดล้มหน้าคะมำลงกับพื้น บังเอิญมีหมามาขี้ไว้เกินบะเริ่ม ก้อนขี้หมานั้นเข้าปากเขาเต็มๆๆ.....อ้วก! (เฮ้อ...ซวย)

15.อาหารนี้ช่วยรอดชีวิต ด. ช. ทอมมี่ กรีลีย์ อายุ 10 ขวบ อาศัยอยู่ในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เขาเกิดมาพร้อมโรคแพ้อาหารทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนมแม่ ขนมก็แพ้ ถ้ากินเข้าไปจะอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง แต่......มีอาหารอย่างหนึ่งที่ทอมมี่กินแล้วไม่อ้วก และสามารถเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง นั้นคือขี้มูลเหลวๆ จากปากหรือจมูกเด็กๆ นั้นเอง

16.มนุษย์ปืนใหญ่ลงผิดที่ โร เจอร์ เคนนีย์ เป็นนักแสดงผาดโผนเสี่ยงตาย เป็นมนุษย์ปืนใหญ่ยิงจากปากกระบอกปืนไปไกลถึง 100 ฟุต แล้วตกไปจุดที่คำนวณไว้อย่างแม่นยำ ครั้งหนึ่งในการแสดง เกิดความผิดพลาดจากแรงอัดกระบอกปืนทำให้ร่างเขาลอยพ้นตาข่าย และเวลานั้นช้างกำลังขี้พอดี หนาของโรเจอร์จึงพุ่งเข้าตูดช้างอย่างแม่นยำ (เจ๋งเป้ง...แม่นเปะ)

17.มนุษย์งู เรื่อง นี้เคยออกข่าวมาแล้วช่อง 3 บรูโน่ โทรลอคซี่ ชาวอิตาลี กำลังฝึกฝนสมาธิแบบชาวตะวันออก วันๆ ไม่ทำการอะไร เอาแต่เล่นโยคะ อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกว่าลิ้นของเขามันใหญ่ไป คับปากคับคอ เป็นอุปสรรคต่อการฝึกสมาธิเขาจึงใจกรรไกลคมๆ อ้าปากอาๆๆ แล้วตัดฉับลิ้นแยกเป็น 2 แฉก จบ..............

18.ศิลปิน เน็ด โทเลอร์ ได้ชื่อว่าเป็นศิลปินสุดเพี้ยน แต่งานเขานั้นสวยงาม ตระการตา ความสัปดนเขาเริ่มขึ้นเมื่อเมียคลอดแฝด 3 ออกมา ด้วยความแป็นศิลปิน เขาเอาผ้าออมแบบใช้แล้วของเด็กแฝดมาจัดการคลุกเคล้ากับขี้แล้วผสมอะไร บางอย่าง สร้างผลิตภัณฑ์เครื่องประดับ เช่น สร้อยลูกประคำ เข็มกลัดติดเสื้อ กิ๊ปหนีบผม ฯลฯ

19.มนุษย์หมาป่า โร เบิร์ต จอห์นสัน หรือ เฟ็ช เกิดพลัดหลงพ่อมากลางป่า ฝูงหมาป่ามาเห็นเข้าจึงเก็บไปเป็นลูก ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนกระทั้ง 10 ขวบ จึงได้รับการช่วยเหลือออกมาอยู่กับสังคมมนุษย์เหมือนเดิม แต่นิสัยของโรเบิร์ตยังแก้ไม่หาย แม้ปัจจุบันนี้ เขาจะโตแล้ว เป็นถึงผู้บริหารนักการธนาคาร แม้ในขณะประชุม เขายังขอเวลานอกเพื่อที่จะเข้าห้องส่วนตัว อาเจียนของเก่าออกมาใส่จานแล้วเลียกลับเข้าไปเหมือนเดิม

20.คนสกปรกที่สุดในโลก วิ ลลี่ เครเมอร์ แห่งเมืองยูยีน รัฐโอเรกอน ได้รับฉายาว่า คุณขี้เปียก เนื่องจากเขาสะสมก้อนประหลาดกลิ่มเหม็นเน่า หนักกว่า 27 ปอนด์ไว้ห้องนั่งเล่นเขา ก้อนเหม็นนั้นมาจากสิ่งละอันพันละน้อยจากสะดือ รูหู จากรูจมูก ขี้ไคล ผสมด้วยน้ำอสุจิ

21.ภารโรงขี้เล่น ใน ห้องแล้บทดลองทางโภชาการแห่งหนึ่ง ในเมืองแฟรค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อนักวิจัยกลับบ้านแล้ว ก็ถึงเวลาที่ภารโรงมาทำความสะอาด วันรุ่งขึ้นนักวิจัย เข้ามาภายในเพื่อเข้าทำงานต่อ แทนที่จะทำงานกับด่าพ่อล้อแม่เพราะถาดงานวิจัยเกิดสลับปนไปหมด พร้อมถาดใส่ใส้เอแคลร์กับราสเบอรี่ ได้มีถาดก้อนสำลีซับเลือดซับหนองมาแทนเพราะภารโรงขี้เล่นแท้ ๆ (เฮ้อ...ซวย)

22.ดิ่งพสุธาลงผิดที่ แค เธอรีน เดลาแพลนเต้ เป็นนักดิ่งพสุธาหญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นมืออาชีพ ครั้งหนึ่งเธอดิ่งพสุธา ปรากฏว่าถูกลมกรรโชกเลยเป้าหมายออกนอกเมืองนับเป็นไมล์ ๆ เธอบังคับร่มลงในแปลงปลูกผักแปลงหนึ่ง โดยหล่นตูมลงถังปุ๋ยหมักที่เปิดฝาจนขึ้นอืด อย่างสุด ๆ (เย่ แม่นจัง )

23.ฆ่าตัวตายแบบสกปรก เคนท์ เกรียร์ วัย 56 ปี ชาวอังกฤษ ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบเรื้อรังหลายปี ทำให้เขาหายใจลำบาก มีเสลดพัดคอตลอดเวลา ความจริงรักษาหาย แต่เขาบอกตัวเองว่า "อยู่ไปก็รกโลก" จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายแบบพิสดาร เขาเติมน้ำจนเต็มอ่างอาบน้ำเด็กก้มหน้าปล่อยให้เสลด น้ำมูก ปะแน่นรูจมูก 2 รู และบางส่วนปิดหลอดลม จนหน้าเขาซุกลงในอ่างน้ำ แล้วเขาก็ตายอย่างสมใจนึกเพระขาดอากาศหายใจ

24.จิตแพทย์ก็บ้าเป็น เมื่อ ปี 1992 มีจิตแพทย์ผู้วชาญโรคจิตในผู้สูงอายุชาวอเมริกันนำเสนอวิธีการบำบัดโรคจิต แก่คนไข้ของตนเอง โดยให้คนไข้แก้ผ้าแล้วนอนในอ่างอาบน้ำ จากนั้นหมอก็แก้ผ้าจนล่อนจ้อนก้มหน้าใช้ลิ้นตัวเองเลียร่างกายคนป่วยจนทั่วตัว กว่าจะรู้ว่าจิตแพทย์คนนั้นเป็นบ้า ด้วยให้คนป่วยโรคจิตแหละมาบอกว่า "หมอเป็นบ้าไปแล้วเจ้าค่า"

400ปี กล้องโทรทรรศน์ กาลิเลโอ

400 ปีก่อน “กาลิเลโอ” ได้เบิกฟ้าสำรวจอวกาศด้วยกล้องโทรทรรศน์กำลังขยาย 30 เท่า เปิดประตูสู่เอกภพอันกว้างใหญ่ ที่ปัจจุบันความรู้เราได้ไปไกลกว่าระบบสุริยะ ภายในมหกรรมวิทยาศาสตร์ปีนี้จึงจัดให้ “เอกภพวิทยา” เป็นหนึ่งในนิทรรศการหลักของงาน ภายในมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2552 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-23 ส.ค.52 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้หัวข้อ “วิทยาศาสตร์ก้าวไกลนำไทยก้าวหน้า” ได้จัดให้นิทรรศการ “เอกภพวิทยา” เป็นหนึ่งในนิทรรศการหลักเนื่องในปีดาราศาสตร์สากล (International Year of Astronomy) เพื่อฉลองโอกาสครบรอบ 400 ปีที่ “กาลิเลโอ กาลิเลอิ” (Galileo Galilei) นักดาราศาสตร์ชาวอิตาลีได้ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ แล้วสำรวจท้องฟ้าอันนำมาซึ่งการค้นพบสำคัญๆ สำหรับนิทรรศการซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ได้เยี่ยมชมนั้น ก่อนจะได้ชมผลงานของกาลิเลโอ มีสรุปผลงานของนักดาราศาสตร์รุ่นก่อนๆ ทั้งการค้นพบแรกๆ ได้สรุปผลงานทางดาราศาสตร์ และผลงานที่กาลิเลโอได้ต่อยอด อาทิ ฮิพพาร์คัส (Hipparchus) นักดาราศาสตร์กรีกที่พบว่าแกนโลกเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ อีกทั้งยังจัดระเบียบความสว่างของดาวฤกษ์ออกเป็น 6 ระดับ โดยระดับแมกนิจูด 1 หมายถึงสว่างที่สุด ส่วนแมกนิจูด 6 หมายถึงสลัวจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น และยังมี นิโคลัส โคเปอร์นิคัส (Nicolaus Copernicus) ที่บอกว่าโลกโคจรรอบๆ ดวงอาทิตย์เหมือนดาวเคราะห์อื่นๆ เป็นต้น ส่วนนิทรรศการที่เกี่ยวกับกาลิเลโอได้นำเสนอแบบจำลองผลงานสำคัญ 3 ชิ้น คือ อุปกรณ์วัดมุมกล้องโทรทรรศน์ (Military Sector) นาฬิกาลูกตุ้ม (Pendulum Clock) ซึ่งเป็นผลงานที่เกิดจากสังเกตคาบการแกว่งของลูกตุ้ม และพื้นเอียงซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับทดลองให้เห็นว่าที่ความเอียงระดับ เดียวกัน ลูกตุ้มมวลต่างกันจะตกกลิ้งถึงพื้นพร้อมกัน และสำหรับพื้นเอียงที่ระดับต่างกัน มวลเท่ากันจะกลิ้งถึงพื้นไม่พร้อมกัน พร้อมกันนี้มีท่อ 4 จุดที่ต่อตรงสู่จอภาพแสดงการค้นพบที่สำคัญของกาลิเลโอผ่านกล้องโทรทรรศน์ ได้แก่ การพบวงแหวนดาวเสาร์ การพบดาวบริวารของดาวพฤหัส การพบสภาพพื้นผิวที่ขระขระและหุบเขาบนดวงจันทร์ จุดดับบนดวงอาทิตย์และทางช้างเผือก อีกทั้งการสังเกตท้องฟ้าของเขาด้วยกล้องโทรทรรศน์ที่ประดิษฐ์ขึ้นเองนั้น ยังยืนแนวคิดของโคเปอร์นิคัสว่า “ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางจักรวาล ไม่ใช่โลก” (ปัจจุบันเราทราบว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางระบบสุริยะ แต่ไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล) สำหรับกล้องโทรทรรศน์ของกาลิเลโอนั้น เป็นกล้องโทรทรรศน์หักเหแสงที่ใช้หลักการประดิษฐ์ของช่างทำแว่นตาชาวดัตช์ ชื่อ ฮันส์ ลิพเพอเซ ที่พบว่าเมื่อวางเลนส์นูนไว้หน้าเลนส์เว้า แล้วเลื่อนหาตำแหน่งที่เหมาะสม เราจะเห็นภาพวัตถุที่เราส่องนั้นโตขึ้นและขยับมาใกล้เรามากขึ้น ออกจากอุโมงค์นิทรรศการผลงานของกาลิเลโอแล้ว ตบท้ายด้วยข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 20 อย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของเขานำไปคำนวณการส่ายของวงโคจรดาวพุธ ซึ่งได้ผลใกล้เคียงกับการสังเกต และยังนำไปสู่การอธิบายเรื่องความโค้งของอวกาศ หรือผลงานของเอ็ดวิน พาร์เวลล์ ฮับเบิล ผู้ร่วมสร้างกล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นิ้ว สำหรับหอดูดาวเมาท์วิลสัน ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ และได้พิสูจน์ว่า กาแลกซีหรือดาราจักรทางช้างเผือกของเรานั้น เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ดาราจักรของเอกภพ ขณะเดียวกันยังมีโรงภาพยนต์สามมิติ 2 โรงที่ฉายภาพยนต์เกี่ยวกับเรื่องอวกาศและเอกภพ โดยแบ่งเป็นโรงภาพยนตร์สำหรับภาพยนตร์ไทยที่จำลองเป็นการนั่งยานอวกาศมุ่ง สู่นอกโลก และโรงภาพยนต์สามมิติซึ่งฉายภาพยนตร์ดาราศาสตร์และอวกาศจากออสเตรเลีย 7 เรื่อง อาทิ เรื่องดวงอาทิตย์ของเรา ที่นำไปเปรียบเทียบกับดาวฤกษ์อื่นๆ ในเอกภพ ทำให้เห็นว่าดวงจันทร์ที่ใหญ่ยักษ์เมื่อเทียบกับโลกนั้น เป็นดาวฤกษ์ที่เล็กจิ๋วกว่าดาวฤกษ์อื่นๆ อีกมาก ตลอดจนจุดจบของดวงอาทิตย์ที่จะเกิดในอีก 5 พันล้านปีข้างหน้า เป็นต้น ทางด้านสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร.ก็ได้ร่วมฉลอง 400 ปีการส่องกล้องสำรวจอวกาศของกาลิเลโอ ด้วยปฏิทินเวลาแสดงพัฒนาการของกล้องโทรทรรศน์ตลอด 400 ปี นับแต่กาลิเลโอได้ประดิษฐ์ขึ้นเป็นครั้งแรก ตลอดจนการค้นพบทางดาราศาสตร์สำคัญๆ ซึ่งนอกจากการค้นพบดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเราแล้ว ยังมีการค้นพบเทหวัตถุบนท้องฟ้าอื่นๆ เช่น ดาวแปรแสง เนบิวลา ดาวเคราะห์แคระ การศึกษาอวกาศห้วงลึก และกาแลกซีต่างๆ เป็นต้น

รุ้จักกับ ipod

ไอพอด (iPod) เป็นชื่อของเครื่องฟังเพลงพกพาของบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ ส่วนมากไอพอดทุกรุ่นใช้ฮาร์ดดิสก์ในการเก็บข้อมูล ยกเว้นรุ่นไอพอด ชัฟเฟิล ไอพอด นาโน และ ไอพอด ทัช ที่ใช้หน่วยความจำแบบแฟลช ไอพอดสามารถใช้เก็บข้อมูลสำหรับแลกเปลี่ยนระหว่างคอมพิวเตอร์ได้ (ขึ้นอยู่กับขนาดของหน่วยความจำในแต่ละรุ่น)แนวคิดของเครื่องฟังเพลงพกพาถูกคิดค้นขึ้นโดยนายเคน แครมเมอร์ เมื่อเขาอายุ 23 ปี เครื่องฟังเพลงพกพาเครื่องแรกที่เขาประดิษฐ์ใช้ชื่อว่า ไอเอกซ์ไอ มีขนาดประมาณบัตรเครดิต สามารถบันทึกเพลงในหน่วยความจำได้ประมาณ 3 นาที 30 วินาที เมื่อพ.ศ. 2531 ลิขสิทธิ์ของไอเอกซ์ไอหมดลง ต้องใช้เงินจำนวน 3.6 ล้านบาทเพื่อต่อสิขสิทธิ์ใน 120 ประเทศ แต่เขาไม่สามารถหาเงินจำนวนนั้นได้ สิขสิทธิ์ไอเอกซ์ไอจึงขาด ทำให้ไอเอกซ์ไอกลายเป็นสาธารณสมบัติในที่สุดไอพอดรุ่นแรกได้ถูกตั้งชื่อใหม่ว่า ไอพอดคลาสสิก (iPod classic) เพื่อแบ่งแยกกับไอพอดรุ่นใหม่แอปเปิล ไอพอดมีหลายรุ่นด้วยกัน ได้แก่ ไอพอด, ไอพอด นาโน ไอพอด มินิ และ ไอพอด ชัฟเฟิล แต่ไอพอดที่แอปเปิลจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดเท่านั้น โดยในปัจจุบัน (กันยายน 2550) ได้แก่ ไอพอดคลาสสิก (รุ่นที่ 6) ไอพอดนาโน (รุ่นที่ 4) ไอพอด ชัฟเฟิล (รุ่นที่ 2) และไอพอด ทัช (รุ่นที่ 2)นอกจากนี้ ยังมี "iPod special edition" (รุ่นพิเศษ) เช่น ไอพอดรุ่นที่ห้า รุ่น U2, ไอพอดมินิสีเงินสลักคำว่า Vios อยู่ด้านหลัง และไอพอดรุ่นที่ห้า รุ่นแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ที่มีลายตราโรงเรียนฮอกวอตส์อยู่ด้านหลังบริษัทเอชพีทำไอพอดขายในชื่อ Apple iPod + HP
ไอพอดรุ่นต่างๆไอพอด ไอพอดแบบดั้งเดิมมีการปรับปรุงหลายครั้ง โดยแต่ละครั้งจะเรียกกันเป็น generation และใช้ตัวย่อว่า G ปัจจุบันมาถึงรุ่นที่หก (6G)รุ่นที่หนึ่ง ออกวางตลาด 23 ตุลาคม ค.ศ. 2001 ความจุ 5GB ราคา 399 ดอลลาร์สหรัฐ และออกรุ่น 10GB กับ 20GB มาในภายหลัง ใช้การควบคุมแบบ scroll wheel ซึ่งผลิตโดยบริษัท Synaptics รุ่นที่สอง เปิดตัววันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 2002 เปลี่ยนจากระบบ scroll wheel มาใช้เป็นระบบสัมผัสแทน รุ่นที่สาม เปิดตัววันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 2003 โดยเป็นรุ่นที่บางเป็นพิเศษ และเพิ่มด็อค (Dock) หรือแท่นสำหรับชาร์จและโอนย้ายไฟล์ การควบคุมยังย้ายปุ่มจากรอบ wheel มาเรียงกันที่ใต้จอแทน รุ่นที่มีคือ 10GB, 15GB, 20GB, 30GB และ 40GB รุ่นที่สี่ เปิดตัววันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2004 เปลี่ยนมาใช้การควบคุมแบบ clickwheel ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลงกว่า 3G เล็กน้อย มีขายสองรุ่นคือ 20GB และ 40GB ซึ่งปัจจุบัน 40GB เลิกผลิตแล้ว รุ่นที่ห้า เปิดตัววันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2005 สามารถเล่นไฟล์วิดีโอ mp4 ได้ มีขนาด 30GB และ 60GB ความพิเศษคือ เป็นรุ่นที่มีสีดำด้วย และมีซองหนังแถมให้ รุ่นที่5.5สามารถเล่นไฟล์วิดีโอ mp4 ได้ มีขนาด 30GB และ 80GB ความพิเศษคือ เป็นรุ่นที่มีสีดำ สีขาว มี รุ่น ที่ มี แบบ U2 ด้วย และมีซองหนังแถมให้ รุ่นที่หก เปิดตัววันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2007 มีขนาดความจุ 80GB และ 160GB ความพิเศษคือ เริ่มใช้ชื่อเรียกไอพอดแบบดั้งเดิมว่า"คลาสสิก" มีอินเตอร์เฟซแบบใหม่ ชิ้นหน้าเปลี่ยนจากพลาสติกเป็นอะโนไดซิสอะลูมิเนียม รุ่นที่หก (ปรับปรุงเดือนกันนายน ค.ศ. 2008) มีจำหน่ายเพียงรุ่นเดียวคือ รุ่น 120GB เท่านั้น
เปรียบเทียบไอพอด(ขวา)กับไอพอดมินิ(ซ้าย)ไอพอดมินิเป็นเครื่องเล่นที่มีขนาดเล็ก ใช้ไมโครไดรว์สำหรับเก็บข้อมูลรุ่นแรก เปิดตัววันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 2004 มีความจุ 4GB และเป็นไอพอดรุ่นแรกที่มี Clickwheel มีขายห้าสี คือ ทอง, เงิน, ฟ้า, เขียว และชมพู สีที่ขายดีที่สุดคือสีเงิน ตามมาด้วยสีฟ้า รุ่นที่สอง เปิดตัวเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 มีขายสองรุ่นคือ 4GB และ 6GB เพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่เป็น 18 ชั่วโมง และเลิกผลิตสีทอง จึงเหลือเพียง 4 สี ในอนาคตอันใกล้จะเลิกผลิตรุ่น 4GB (ถูกแทนที่ด้วย ไอพอดชัฟเฟิล รุ่น 4GB) ไอพอด U2 Special Edition ออกขายวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2004 เป็นรุ่นพิเศษสีดำ Clickwheel สีแดง ด้านหลังมีลายเซ็นของวงร็อก U2 ความสามารถเหมือนกับรุ่น 4G ความจุ 20GB ทุกประการ ไอพอด โฟโต้ออกขายวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2004 เป็นรุ่นที่มีจอสี และสามารถแสดงรูปภาพแบบ JPEG, GIF, PNG, TIFF และ BMP ได้ มีความจุ 40GB และ 60GBวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 ได้หยุดขายรุ่น 40GB และเปลี่ยนมาขายรุ่น 30GB ที่ราคาถูกลงแทน และยังได้เพิ่มอุปกรณ์เสริมในการย้ายรูปถ่ายจากกล้องดิจิทัล มาเก็บในไอพอด โฟโต้โดยไม่ต้องผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ไอพอดชัฟเฟิลรุ่นที่หนึ่ง เปิดตัววันที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2005 โดยใช้หน่วยความจำแบบแฟลชแทนฮาร์ดดิสก์ และสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ทันที ผ่านพอร์ต ยูเอสบี ในตัว. มีขายสองรุ่นคือ รุ่นขนาด 512MB และ 1GB, จุดแตกต่างของรุ่นนี้จากรุ่นอื่นคือ ไม่มีจอภาพและปุ่มควบคุมการเล่น ดังนั้นจึงเล่นเพลงได้ตามลำดับที่กำหนดมาล่วงหน้าจากคอมพิวเตอร์ หรือเล่นแบบสุ่ม (Shuffle) เท่านั้น (เป็นที่มาของชื่อรุ่น) รุ่นที่สอง เปิดตัววันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2006 ผลิตด้วย อะโนไดซิส อะลูมิเนียม โดยทำออกมาให้มีขนาดเล็กลงจากรุ่นที่หนึ่ง มีให้เลือก 5 สี มีขายอยู่ 2 รุ่นคือ รุ่น 1GB กับ 2GB
ไอพอดนาโนรุ่นแรกไอพอด นาโน ไอพอด นาโน (iPod nano) รุ่นแรกเปิดตัววันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2005 รุ่นที่สองเปิดตัววันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2006 ในฐานะรุ่นต่อของไอพอดมินิ ไอพอด นาโนใช้หน่วยความจำแบบแฟลชเมมโมรี่แทนฮาร์ดดิสก์เหมือนไอพอดชัฟเฟิล แต่มีความจุถึง 8GB (จุได้ประมาณ2,000 เพลง) ขนาดบางเพียง 7 มิลลิเมตร โดยมีขนาด 88 x 40 x 7 มม. น้ำหนักเบาขนาด 40 กรัม และมีจอสี (16.7ล้านสี) แสดงไฟล์ภาพได้ ติดต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วย ยูเอสบี 2.0 และยังคงมีอินเตอร์เฟดส์แบบ 30 เข็มเหมือนไอพอดรุ่นก่อนรุ่นแรก เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2005 ไอพอด นาโนรุ่นแรก มีให้เลือกได้สองสี คือ ขาว และ ดำ และมีความจุ 3 ขนาดคือ 2GB ($199) และ 4GB ($249) และออก 1GB ($149) มาภายหลัง รุ่นที่สอง เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2006 ผลิตด้วย อะโนไดซิส อะลูมิเนียม ไอพอด นาโนรุ่นที่สอง มีให้เลือก 6 สี คือ เงิน ชมพู เขียว ฟ้า และดำ มีความจุให้เลือก 3 ขนาดคือ 2GB เฉพาะสีเงิน ราคา $149, 4GB สี เงิน ชมพู เขียว ฟ้า และดำ ราคา $199, 8GB เฉพาะสีดำ ราคา $249 ฟังเพลงได้นาน 24 ชั่วโมง และ 5 ชั่วโมงเมื่อเปิดเพลงพร้อมกับสไลต์โชว์ รุ่นที่สาม เปิดตัวเมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2007 ขนาดของจอเพิ่มเป็น 2 นิ้วความละเอียดระดับ QVGA มีให้เลือกเพียง 2 ขนาดคือ 4GB และ 8GB รุ่นที่สี่ เปิดตัวเมื่อ 9 กันยายน ค.ศ. 2008 มีสีให้เลือกเพิ่มเป็น 9 สี มีให้เลือก 3 ขนาดคือ 4GB, 8GB และ 16GB (ขนาด 4GB มีจำหน่ายเฉพาะในบางร้าน) ไอพอดทัชไอพอดทัช (iPod touch) เป็นเครื่องเล่นดนตรีแบบพกพาในสายการผลิตไอพอด ผลิตโดยบริษัทแอปเปิล โดยประกาศในวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2550 และจะวางจำหน่ายในช่วงสิ้นเดือนกันยายน ไอพอดทัชเป็นไอพอดรุ่นที่ 6 โดยมีลักษณะคล้ายไอโฟนที่มีหน้าจอสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว และสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบวาย-ฟาย (802.11b/g) ด้วยเว็บเบราว์เซอร์ซาฟารี นอกจากนี้ไอพอดทัชยังสามารถดาวน์โหลดเพลงได้จากไอทูนส์ ไอพอดทัชมีสามรุ่นคือ รุ่น 8, 16 และ 32 จิกะไบต์

รุ้จักกับ ipod

ไอพอด (iPod) เป็นชื่อของเครื่องฟังเพลงพกพาของบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ ส่วนมากไอพอดทุกรุ่นใช้ฮาร์ดดิสก์ในการเก็บข้อมูล ยกเว้นรุ่นไอพอด ชัฟเฟิล ไอพอด นาโน และ ไอพอด ทัช ที่ใช้หน่วยความจำแบบแฟลช ไอพอดสามารถใช้เก็บข้อมูลสำหรับแลกเปลี่ยนระหว่างคอมพิวเตอร์ได้ (ขึ้นอยู่กับขนาดของหน่วยความจำในแต่ละรุ่น)แนวคิดของเครื่องฟังเพลงพกพาถูกคิดค้นขึ้นโดยนายเคน แครมเมอร์ เมื่อเขาอายุ 23 ปี เครื่องฟังเพลงพกพาเครื่องแรกที่เขาประดิษฐ์ใช้ชื่อว่า ไอเอกซ์ไอ มีขนาดประมาณบัตรเครดิต สามารถบันทึกเพลงในหน่วยความจำได้ประมาณ 3 นาที 30 วินาที เมื่อพ.ศ. 2531 ลิขสิทธิ์ของไอเอกซ์ไอหมดลง ต้องใช้เงินจำนวน 3.6 ล้านบาทเพื่อต่อสิขสิทธิ์ใน 120 ประเทศ แต่เขาไม่สามารถหาเงินจำนวนนั้นได้ สิขสิทธิ์ไอเอกซ์ไอจึงขาด ทำให้ไอเอกซ์ไอกลายเป็นสาธารณสมบัติในที่สุดไอพอดรุ่นแรกได้ถูกตั้งชื่อใหม่ว่า ไอพอดคลาสสิก (iPod classic) เพื่อแบ่งแยกกับไอพอดรุ่นใหม่แอปเปิล ไอพอดมีหลายรุ่นด้วยกัน ได้แก่ ไอพอด, ไอพอด นาโน ไอพอด มินิ และ ไอพอด ชัฟเฟิล แต่ไอพอดที่แอปเปิลจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดเท่านั้น โดยในปัจจุบัน (กันยายน 2550) ได้แก่ ไอพอดคลาสสิก (รุ่นที่ 6) ไอพอดนาโน (รุ่นที่ 4) ไอพอด ชัฟเฟิล (รุ่นที่ 2) และไอพอด ทัช (รุ่นที่ 2)นอกจากนี้ ยังมี "iPod special edition" (รุ่นพิเศษ) เช่น ไอพอดรุ่นที่ห้า รุ่น U2, ไอพอดมินิสีเงินสลักคำว่า Vios อยู่ด้านหลัง และไอพอดรุ่นที่ห้า รุ่นแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ที่มีลายตราโรงเรียนฮอกวอตส์อยู่ด้านหลังบริษัทเอชพีทำไอพอดขายในชื่อ Apple iPod + HP
ไอพอดรุ่นต่างๆไอพอด ไอพอดแบบดั้งเดิมมีการปรับปรุงหลายครั้ง โดยแต่ละครั้งจะเรียกกันเป็น generation และใช้ตัวย่อว่า G ปัจจุบันมาถึงรุ่นที่หก (6G)รุ่นที่หนึ่ง ออกวางตลาด 23 ตุลาคม ค.ศ. 2001 ความจุ 5GB ราคา 399 ดอลลาร์สหรัฐ และออกรุ่น 10GB กับ 20GB มาในภายหลัง ใช้การควบคุมแบบ scroll wheel ซึ่งผลิตโดยบริษัท Synaptics รุ่นที่สอง เปิดตัววันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 2002 เปลี่ยนจากระบบ scroll wheel มาใช้เป็นระบบสัมผัสแทน รุ่นที่สาม เปิดตัววันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 2003 โดยเป็นรุ่นที่บางเป็นพิเศษ และเพิ่มด็อค (Dock) หรือแท่นสำหรับชาร์จและโอนย้ายไฟล์ การควบคุมยังย้ายปุ่มจากรอบ wheel มาเรียงกันที่ใต้จอแทน รุ่นที่มีคือ 10GB, 15GB, 20GB, 30GB และ 40GB รุ่นที่สี่ เปิดตัววันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2004 เปลี่ยนมาใช้การควบคุมแบบ clickwheel ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลงกว่า 3G เล็กน้อย มีขายสองรุ่นคือ 20GB และ 40GB ซึ่งปัจจุบัน 40GB เลิกผลิตแล้ว รุ่นที่ห้า เปิดตัววันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2005 สามารถเล่นไฟล์วิดีโอ mp4 ได้ มีขนาด 30GB และ 60GB ความพิเศษคือ เป็นรุ่นที่มีสีดำด้วย และมีซองหนังแถมให้ รุ่นที่5.5สามารถเล่นไฟล์วิดีโอ mp4 ได้ มีขนาด 30GB และ 80GB ความพิเศษคือ เป็นรุ่นที่มีสีดำ สีขาว มี รุ่น ที่ มี แบบ U2 ด้วย และมีซองหนังแถมให้ รุ่นที่หก เปิดตัววันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2007 มีขนาดความจุ 80GB และ 160GB ความพิเศษคือ เริ่มใช้ชื่อเรียกไอพอดแบบดั้งเดิมว่า"คลาสสิก" มีอินเตอร์เฟซแบบใหม่ ชิ้นหน้าเปลี่ยนจากพลาสติกเป็นอะโนไดซิสอะลูมิเนียม รุ่นที่หก (ปรับปรุงเดือนกันนายน ค.ศ. 2008) มีจำหน่ายเพียงรุ่นเดียวคือ รุ่น 120GB เท่านั้น
เปรียบเทียบไอพอด(ขวา)กับไอพอดมินิ(ซ้าย)ไอพอดมินิเป็นเครื่องเล่นที่มีขนาดเล็ก ใช้ไมโครไดรว์สำหรับเก็บข้อมูลรุ่นแรก เปิดตัววันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 2004 มีความจุ 4GB และเป็นไอพอดรุ่นแรกที่มี Clickwheel มีขายห้าสี คือ ทอง, เงิน, ฟ้า, เขียว และชมพู สีที่ขายดีที่สุดคือสีเงิน ตามมาด้วยสีฟ้า รุ่นที่สอง เปิดตัวเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 มีขายสองรุ่นคือ 4GB และ 6GB เพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่เป็น 18 ชั่วโมง และเลิกผลิตสีทอง จึงเหลือเพียง 4 สี ในอนาคตอันใกล้จะเลิกผลิตรุ่น 4GB (ถูกแทนที่ด้วย ไอพอดชัฟเฟิล รุ่น 4GB) ไอพอด U2 Special Edition ออกขายวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2004 เป็นรุ่นพิเศษสีดำ Clickwheel สีแดง ด้านหลังมีลายเซ็นของวงร็อก U2 ความสามารถเหมือนกับรุ่น 4G ความจุ 20GB ทุกประการ ไอพอด โฟโต้ออกขายวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2004 เป็นรุ่นที่มีจอสี และสามารถแสดงรูปภาพแบบ JPEG, GIF, PNG, TIFF และ BMP ได้ มีความจุ 40GB และ 60GBวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 ได้หยุดขายรุ่น 40GB และเปลี่ยนมาขายรุ่น 30GB ที่ราคาถูกลงแทน และยังได้เพิ่มอุปกรณ์เสริมในการย้ายรูปถ่ายจากกล้องดิจิทัล มาเก็บในไอพอด โฟโต้โดยไม่ต้องผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ไอพอดชัฟเฟิลรุ่นที่หนึ่ง เปิดตัววันที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2005 โดยใช้หน่วยความจำแบบแฟลชแทนฮาร์ดดิสก์ และสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ทันที ผ่านพอร์ต ยูเอสบี ในตัว. มีขายสองรุ่นคือ รุ่นขนาด 512MB และ 1GB, จุดแตกต่างของรุ่นนี้จากรุ่นอื่นคือ ไม่มีจอภาพและปุ่มควบคุมการเล่น ดังนั้นจึงเล่นเพลงได้ตามลำดับที่กำหนดมาล่วงหน้าจากคอมพิวเตอร์ หรือเล่นแบบสุ่ม (Shuffle) เท่านั้น (เป็นที่มาของชื่อรุ่น) รุ่นที่สอง เปิดตัววันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2006 ผลิตด้วย อะโนไดซิส อะลูมิเนียม โดยทำออกมาให้มีขนาดเล็กลงจากรุ่นที่หนึ่ง มีให้เลือก 5 สี มีขายอยู่ 2 รุ่นคือ รุ่น 1GB กับ 2GB
ไอพอดนาโนรุ่นแรกไอพอด นาโน ไอพอด นาโน (iPod nano) รุ่นแรกเปิดตัววันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2005 รุ่นที่สองเปิดตัววันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2006 ในฐานะรุ่นต่อของไอพอดมินิ ไอพอด นาโนใช้หน่วยความจำแบบแฟลชเมมโมรี่แทนฮาร์ดดิสก์เหมือนไอพอดชัฟเฟิล แต่มีความจุถึง 8GB (จุได้ประมาณ2,000 เพลง) ขนาดบางเพียง 7 มิลลิเมตร โดยมีขนาด 88 x 40 x 7 มม. น้ำหนักเบาขนาด 40 กรัม และมีจอสี (16.7ล้านสี) แสดงไฟล์ภาพได้ ติดต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วย ยูเอสบี 2.0 และยังคงมีอินเตอร์เฟดส์แบบ 30 เข็มเหมือนไอพอดรุ่นก่อนรุ่นแรก เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2005 ไอพอด นาโนรุ่นแรก มีให้เลือกได้สองสี คือ ขาว และ ดำ และมีความจุ 3 ขนาดคือ 2GB ($199) และ 4GB ($249) และออก 1GB ($149) มาภายหลัง รุ่นที่สอง เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2006 ผลิตด้วย อะโนไดซิส อะลูมิเนียม ไอพอด นาโนรุ่นที่สอง มีให้เลือก 6 สี คือ เงิน ชมพู เขียว ฟ้า และดำ มีความจุให้เลือก 3 ขนาดคือ 2GB เฉพาะสีเงิน ราคา $149, 4GB สี เงิน ชมพู เขียว ฟ้า และดำ ราคา $199, 8GB เฉพาะสีดำ ราคา $249 ฟังเพลงได้นาน 24 ชั่วโมง และ 5 ชั่วโมงเมื่อเปิดเพลงพร้อมกับสไลต์โชว์ รุ่นที่สาม เปิดตัวเมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2007 ขนาดของจอเพิ่มเป็น 2 นิ้วความละเอียดระดับ QVGA มีให้เลือกเพียง 2 ขนาดคือ 4GB และ 8GB รุ่นที่สี่ เปิดตัวเมื่อ 9 กันยายน ค.ศ. 2008 มีสีให้เลือกเพิ่มเป็น 9 สี มีให้เลือก 3 ขนาดคือ 4GB, 8GB และ 16GB (ขนาด 4GB มีจำหน่ายเฉพาะในบางร้าน) ไอพอดทัชไอพอดทัช (iPod touch) เป็นเครื่องเล่นดนตรีแบบพกพาในสายการผลิตไอพอด ผลิตโดยบริษัทแอปเปิล โดยประกาศในวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2550 และจะวางจำหน่ายในช่วงสิ้นเดือนกันยายน ไอพอดทัชเป็นไอพอดรุ่นที่ 6 โดยมีลักษณะคล้ายไอโฟนที่มีหน้าจอสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว และสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบวาย-ฟาย (802.11b/g) ด้วยเว็บเบราว์เซอร์ซาฟารี นอกจากนี้ไอพอดทัชยังสามารถดาวน์โหลดเพลงได้จากไอทูนส์ ไอพอดทัชมีสามรุ่นคือ รุ่น 8, 16 และ 32 จิกะไบต์

รู้จักกับ HDTV

รู้จักกับ HDTV Special Report โดย Winmag เวลา 09:52 น. โทรทัศน์ความละเอียดสูงหรือ HDTV (High definition television) เป็นรูปแบบใหม่ของการรับชมรายการโทรทัศน์ที่ให้ภาพคมชัดว่า สดใสกว่า และเสียงดีกว่า
โทรทัศน์ความละเอียดสูงหรือ HDTV (High definition television) เป็นรูปแบบใหม่ของการรับชมรายการโทรทัศน์ที่ให้ภาพคมชัดว่า สดใสกว่า และเสียงดีกว่า โดยสถานีโทรทัศน์จะต้องแพร่ภาพรายการดังกล่าวในรูปแบบ HD ด้วย หรือสามารถรับชมภาพยนตร์หรือวิดีโอที่อัดไว้ด้วยฟอร์แมต Blu-ray และ HD-DVD ส่วนผู้รับชมก็ต้องมีโทรทัศน์ที่สามารถรับชมรายการที่ส่งแบบ HD ได้ซึ่งส่วนมากจะแสดงสัญลักษณ์ HD ready ไว้ที่ตัวเครื่อง
HD ready เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความสามารถในการรับสัญญาณเพื่อแสดงภาพด้วยความละเอียดสูง เป็นคำนิยามที่ใช้อย่างเป็นทางการในยุโรปตั้งแต่เดือนมกราคม 2005 โดยองค์กร EICTA (European Information, Communications and Consumer Electronics Technology Industry Associations)
EICTA ได้กำหนดให้สัญลักษณ์นี้เป็นเครื่องหมายคุณภาพเพื่อแสดงถึงความแตกต่างของอุปกรณ์แสดงผล ความสามารถในการประมวลผลและแสดงผลสัญญาณไฮเดฟ
ในอเมริกา "HD Ready" หมายถึงอุปกรณ์แสดงผลใดๆ ที่สามารถรับและแสดงผลสัญญาณไฮเดฟได้ทั้งแบบ 720p, 1080i หรือ 1080p โดยใช้สัญญาณวิดีโอหรือสัญญาณดิจิตอลใดๆ และไม่มีจูนเนอร์สำหรับขยายสัญญาณไฮเดฟภายในตัว



1080p เป็นคำสั้นๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการแสดงภาพวิดีโอ โดยเลข 1080 หมายถึงจำนวนความละเอียดของเส้นในแนวนอน 1,080 เส้น และตัวอักษร p ย่อมาจาก progressive scan หรือ non-interlaced ในขณะที่ i ย่อมาจาก interlaced ปัจจุบันทั้ง 1080i และ 1080p เป็นฟอร์แมตความละเอียดสูงสุดที่ใช้กันทั่วไปในการแพร่ภาพและการเก็บภาพวิดีโอ
1080p เป็นสัญญาณภาพแบบ HDTV โดยมีการรับส่งในแบบไวด์สกรีนอัตราส่วน 16:9 นั่นหมายความว่า ความละเอียดของการแสดงจะผลอยู่ที่ 1920 จุดในแนวนอนและมีความละเอียดเท่ากับ 1920 × 1080 หรือเท่ากับ 2,073,600 พิกเซล

บทความจากน้าเน๊ก...เจ๋ง..

บทความจากน้าเน๊ก...เจ๋ง..

อีืกหน่อยเราก็ตายจากกัน......แล้วนะ - ข้อคิดดี ๆ จากน้าเน๊ก เกตุเสพย์สวัสดิ์
1. คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี 1 ปี เท่ากับ 365 วัน แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม......... ไม่เลว 3,120 สัปดาห์ อุแม่เจ้า......... แสดงว่า เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา แทบเบือนหน้าหนีจากปฏิทิน เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับถอยหลังเพื่อรอวันลาโลก... เปล่าเลยผมไม่ได้กลัวตาย และขอโทษที่หากเรื่องอาจไม่ค่อยขำ แต่ตลอดเวลาที่ใช้เวลาอยู่บนโลกนี้มันน้อยมากหากคำนวนในเชิงตัวเลข *ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน *เพลงอีกหลายเพลงยังไม่ได้ฟัง *หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดู ความรู้สึกในใจอีกมากมายที่ยังไม่เคยบอก พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป โอ๊ย..... กลุ้ม สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามัน น้อยเกินไปจริง ๆ และที่น่ากลุ้มไปกว่านั้นคือ ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน นั่นแสดงว่าบางคนไม่ได้มีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วันหรอกนะ อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ! อุแม่เจ้าเทค 2 คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึง สามพันวันแล้วเหรอเนี่ย!!!! คิดแบบนี้ต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู กางปฏิทินออกกว้าง ๆ เพราะมันคือเวลาที่เราเหลือ.... บนโลกนี้ นี่ชั้นกำลังทำบ้าบออะไรอยู่.....ไม่เลยน้องสาว นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งสิ้น หากเป็นความจริงที่ เราไม่ค่อยได้มองมัน เอาล่ะ งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 17 ปี แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,205 วัน และผ่านคืนวันเสาร์มาร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น ...... คำนวณเองบ้างซิว้อยย..... เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลา ( ที่คาดว่าจะ) เหลืออยู่ ผลลัพธ์ที่ได้ เราจะทำยังไงกับมันดี ..... แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อนั่งเอา หัวตากแอร์ไปวัน ๆ ยอม ให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้ เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า ' เงินเดือน ' บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ ไม่ก็เห็นแค่ว่าเพื่อนเรียน เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่ากูจะเป็นอะไรดี บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น แต่กลับปล่อยให้ใจตัวเองเหลืออยู่แต่ความ รู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน บางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆ ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มึงแน่ กูแน่ งอนการกุศล ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....ไอ้บ้า และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม ' ฆ่าเวลา ' ชีวิตมันว่างจัด ขนาดต้องฆ่าเวลากันเลย บอกตรง ๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี อีกหน่อยเราก็ตายจากัน ...... แล้วนะ ลองคิดแบบนี้บ้าง ใช่แล้ว .... เราจะเกิดความเสียดาย เพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านที่เรายังไม่ได้ทำ ตายได้ไง หากฝันไม่สำเร็จ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย แต่ให้รีบทำทุกอย่าง ก่อนที่จะตาย ... ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้ และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ... มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า เอาแบบตายวันตายพรุ่งก็จะได้นอนตายตาหลับ ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า....พรุ่งนี้ฉันจะตายแล้ว ทำงานในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก ตามความฝันของเราไปสุดโต่ง ...ต้องรีบแล้ว เดี๋ยวตายนะ...เตือนแล้วไง รักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย ... เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ ) ตายแล้ว ใช้เวลา ( ที่อาจจะ) สุดท้ายที่มีต่อกันไว้ กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดครั้งสุดท้ายของเรา นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะอย่างน้อย ๆ เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์ยมบาล ....... คนข้างบ้านเดินแป้นแล้นมาบอกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน ในมือมีซองสีชมพูพร้อมการ์ด ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง เมื่อกี๊ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทรมาปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน......... หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย ...... แต่กว่าคนเป็นแม่จะรู้ข่าวร้าย ก็ปาไป 5 วัน ซองในมือผม กลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้ กลายเป็นพวงหรีด และทั้งหมดกลายเป็นแรงบันดาลใจ ที่อยากจะบอก ว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน .... แล้วนะ อ้าว.... รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก รีบ แยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ไปทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ ทำ เดี๋ยวตายซะก่อน .... เสียดายแย่ โดย น้าเน๊ก ...... เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา